ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร “บมจ. วิลล่า คุณาลัย” (KUN) ที่ BB- แต่ปรับแนวโน้มเป็น “Negative” จาก “Stable” สะท้อนผลประกอบการต่ำกว่าคาด เสี่ยงรีไฟแนนซ์-สภาพคล่องตึงตัว หนี้สูง-ดอกเบี้ยแพง-กำลังซื้อหด ฉุดความเชื่อมั่น
กรุงเทพฯ, 13 กุมภาพันธ์ 2568 – ทริสเรทติ้งประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN ที่ระดับ “BB-” แต่ได้ปรับเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Negative” (ลบ) จากเดิม “Stable” (คงที่) การปรับแนวโน้มครั้งนี้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงความเสี่ยงในการรีไฟแนนซ์ (Refinance) หุ้นกู้ และความเสี่ยงด้านสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น
ทริสเรทติ้งระบุว่า ผลการดำเนินงานของ KUN ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ต่ำกว่าประมาณการอย่างมาก โดยมีรายได้จากการดำเนินงานรวมเพียง 479 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของประมาณการทั้งปีที่ทริสเรทติ้งเคยคาดการณ์ไว้ ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่เพียงหนึ่งในสี่ของเป้าหมายทั้งปี ส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานยังคงติดลบ
ปัจจัยหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานต่ำกว่าคาดมาจากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เอื้ออำนวย และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อกลุ่มลูกค้ารายได้ปานกลางถึงต่ำ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของ KUN
นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังกดดันความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ทำให้ KUN ต้องลดอัตรากำไรในบางโครงการเพื่อกระตุ้นยอดขายและลดจำนวนสินค้าคงเหลือ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในช่วงปี 2566 ถึง 9 เดือนแรกของปี 2567 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 24%-25% จาก 27%-33% ในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า ขณะที่ EBITDA Margin อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 11%-14% จากระดับมากกว่า 18% ในช่วงปี 2563-2565
ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงโครงการหลัก
ทริสเรทติ้งยังชี้ว่า ขอบเขตการดำเนินธุรกิจของ KUN ที่จำกัด มีโครงการที่เปิดขายเพียงไม่กี่โครงการ และกระจุกตัวอยู่ในทำเลที่ตั้งเฉพาะบางแห่ง เป็นข้อจำกัดสำคัญต่อสถานะเครดิตของบริษัท โดย ณ เดือนธันวาคม 2567 KUN มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 11 โครงการในพื้นที่เขตรังสิต บางขุนเทียน และบางบัวทอง มีมูลค่าเหลือขายรวม 1.17 หมื่นล้านบาท
มากกว่า 80% ของมูลค่าเหลือขายของบริษัทอยู่ในโครงการใหญ่สองโครงการ คือ คุณาลัย นาวาร่า พระราม 2 และคุณาลัย นาวาร่า รังสิตคลอง 2 ซึ่งบริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการในทำเลดังกล่าวเป็นหลัก และไม่มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงปี 2568-2569
คาดการณ์รายได้และกำไร
ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากการดำเนินงานรวมของ KUN ในปี 2567 จะลดลง 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน และจะฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 800-900 ล้านบาท ในช่วงปี 2568-2569 โดยคาดว่ารายได้จากสองโครงการหลักจะคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของรายได้รวมในปี 2567 และเพิ่มเป็นประมาณสามในสี่ในช่วงปี 2568-2569
ส่วน EBITDA คาดว่าจะลดลงเหลือประมาณ 90 ล้านบาทในปี 2567 จาก 100 ล้านบาทในปี 2566 โดยมี EBITDA Margin อยู่ที่ 13% อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าความสามารถในการทำกำไรจะปรับตัวดีขึ้นในปีต่อ ๆ ไป เนื่องจากต้นทุนราคาที่ดินของทั้งสองโครงการหลักอยู่ในระดับต่ำ โดย EBITDA จะฟื้นตัวสู่ระดับ 160-180 ล้านบาทในปี 2568-2569 และ EBITDA Margin อยู่ที่ 18%-20% ขณะที่ผลกำไรสุทธิคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 10%-12% ของรายได้จากการดำเนินงานรวมในช่วงสองปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดที่คาดไว้ที่ 5% ในปี 2567
ภาระหนี้สูง แต่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราหนี้สินทางการเงินของ KUN ณ สิ้นปี 2567 จะยังคงอยู่ในระดับสูง และกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้จะยังคงติดลบ จากการขยายธุรกิจเชิงรุกในช่วงปี 2564-2566 และผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลง
อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้สินทางการเงินของบริษัทจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีแผนลดภาระหนี้ โดยไม่มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงสองปีข้างหน้า และจะมุ่งเน้นการขายและพัฒนาโครงการใหญ่ทั้งสองโครงการที่มีอยู่
นอกจากนี้ KUN ได้เพิ่มทุนใหม่จำนวน 50 ล้านบาทในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ทำให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 60%-65% และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินคาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 2% ในช่วงปี 2568-2569
สภาพคล่องตึงตัว และความเสี่ยงในการรีไฟแนนซ์
ทริสเรทติ้งประเมินว่าสภาพคล่องของ KUN จะยังคงตึงตัวในช่วง 15 เดือนข้างหน้า โดยมีภาระหนี้ที่ครบกำหนดชำระในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 จนถึงตลอดทั้งปี 2568 จำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.4 พันล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยหุ้นกู้ 640 ล้านบาท, เงินกู้โครงการระยะยาว 631 ล้านบาท, ตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้น 118 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาว 34 ล้านบาท
แหล่งที่มาของสภาพคล่องของบริษัท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 ประกอบด้วยเงินสดในมือ 61 ล้านบาท, วงเงินกู้ยืมระยะสั้นที่ยังไม่ได้เบิกใช้ 26 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อแบบมีเงื่อนไขที่ยังไม่ได้ใช้ 1.4 พันล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีที่ดินที่ปลอดภาระหนี้ซึ่งมีมูลค่าทางบัญชี 174 ล้านบาท
KUN มีแผนจะออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน โดยจากหุ้นกู้มูลค่า 640 ล้านบาทที่จะครบกำหนด บริษัทได้ชำระคืนไปแล้ว 200 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 440 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนกรกฎาคม 2568 คาดว่าจะชำระคืนบางส่วนด้วยการออกหุ้นกู้แปลงสภาพชุดใหม่มูลค่า 120 ล้านบาทในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 รวมถึงการออกหุ้นกู้ใหม่ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 และที่เหลือจะใช้วงเงินสินเชื่อจากธนาคาร
อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมองว่า จากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอและสภาวะตลาดตราสารหนี้ที่ระมัดระวังความเสี่ยง KUN อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการรีไฟแนนซ์ แต่บริษัทมีแผนขายที่ดินบางส่วนในปี 2568 เพื่อลดแรงกดดันด้านสภาพคล่อง
โครงสร้างหนี้ วิลล่า คุณาลัย
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 KUN มีหนี้สินรวมประมาณ 1.9 พันล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน 988 ล้านบาท ทำให้อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินรวมอยู่ที่ 51% ทริสเรทติ้งจึงมองว่าเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันของบริษัทมีความเสียเปรียบในด้านลำดับสิทธิเรียกร้องเหนือสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ
แนวโน้มอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของบริษัทที่อ่อนแอกว่าคาด สภาพคล่องที่ตึงตัว และความเสี่ยงในการรีไฟแนนซ์ที่เพิ่มสูงขึ้น
อันดับเครดิตของ KUN อาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานและ/หรือสถานะทางการเงินแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ หรือสภาพคล่องลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในทางกลับกัน แนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับเป็น “Stable” หากบริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งกว่าเป้าหมายอย่างมีนัยสำคัญและความกังวลด้านสภาพคล่องคลี่คลายลง
#วิลล่าคุณาลัย #KUN #ทริสเรทติ้ง #หุ้นกู้ #อสังหาริมทรัพย์ #ผลประกอบการ #หนี้สิน #สภาพคล่อง #การเงิน #การลงทุน #อันดับเครดิต